เปิดตัว Llama 2 AI ปัญญาประดิษฐ์ใหม่ล่าสุดจาก Meta เปิดตัวแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรุ่นถัดไปของโมเดลภาษาโอเพ่นซอร์สขนาดใหญ่ของ Meta ให้บริการฟรีสำหรับการวิจัยและการใช้งานเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ Meta กำลังเปิดให้เข้าถึง Llama 2 ด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทและผู้คนในแวดวงเทคโนโลยี สถาบันการศึกษา และนโยบายที่เชื่อมั่นในแนวทางนวัตกรรมแบบเปิดสำหรับเทคโนโลยี AI
Llama 2 พร้อมใช้งานในแค็ตตาล็อกโมเดล Azure AI ช่วยให้นักพัฒนาที่ใช้ Microsoft Azure สร้างด้วยมันและใช้ประโยชน์จากเครื่องมือแบบเนทีฟบนคลาวด์สำหรับการกรองเนื้อหาและคุณลักษณะด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้รับการปรับให้ทำงานภายในเครื่องบน Windows ทำให้นักพัฒนามีเวิร์กโฟลว์ที่ราบรื่นเมื่อพวกเขานำประสบการณ์ AI เชิงสร้างสรรค์มาสู่ลูกค้าในแพลตฟอร์มต่างๆ Llama 2 มีให้บริการผ่าน Amazon Web Services (AWS), Hugging Face และผู้ให้บริการรายอื่นด้วย
โดย Meta ได้จับมือกับหลายบริษัท อย่างเช่น Qualcomm เพื่อให้ทำงานได้โดยตรงในระดับอุปกรณ์ (On-Device) โดยไม่ต้องพึ่งพาการประมวลผลบน Cloud เพื่อให้ทำงานได้โดยตรงไม่ต้องพึ่งพาการประมวลผลบน Cloud คาดว่าจะออกชิป SnapDragon ที่รองรับการทำงานร่วมกับ Llama 2 บนอุปกรณ์ในปี 2024
ความร่วมมือระหว่าง Microsoft กับ Meta ประกาศสนับสนุนตระกูล Llama 2 ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) บน Azure และ Windows
Llama 2 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้นักพัฒนาและองค์กรสามารถสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบสร้างสรรค์ได้ ทั้งนี้ Meta และ Microsoft มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการทําให้ AI และประโยชน์และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรในการเปิดตัว Llama 2 เวอร์ชันใหม่ให้กับลูกค้าเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก
ตอนนี้ผู้ใช้ Azure สามารถปรับแต่งและปรับใช้โมเดล Llama 2 พารามิเตอร์ 7B, 13B และ 70B ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยยิ่งขึ้นบน Azure ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดที่ได้รับการยอมรับ นอกจากนี้ Llama จะได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อทํางานในเครื่องบน Windows ทำให้นักพัฒนา Windows จะสามารถใช้ Llama ได้โดยกําหนดเป้าหมายผู้ให้บริการการดําเนินการ DirectML ผ่าน ONNX Runtime ทําให้เวิร์กโฟลว์ราบรื่นเมื่อพวกเขานําประสบการณ์ AI เชิงกําเนิดมาสู่แอปพลิเคชัน
ความพร้อมใช้งานของโมเดล Llama 2 ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพของ Azure AI สําหรับการฝึกอบรมโมเดล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถที่สนับสนุนความปลอดภัยของ AI การรวมโมเดล Llama 2 ไว้ใน Windows ช่วยขับเคลื่อน Windows ให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสําหรับนักพัฒนาในการสร้างประสบการณ์ AI ที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าและปลดล็อกความสามารถในการสร้างโดยใช้เครื่องมือเช่น Windows Subsystem for Linux (WSL), Windows terminal, Microsoft Visual Studio และ VS Code
ที่มา: https://www.it24hrs.com/2023/llama-2-ai-nextgen-from-meta/