วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเลยพาเลซ จังหวัดเลย นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 62 จังหวัดเลย และยุติธรรมพบประชาชน โดยมีนายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายปิยชาต สงวนหงษ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการบังคับคดีล้มละลาย นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย โดยรายแรกเป็นลูกหนี้หลังศาลมีคำพิพากษา กับธนาคารออมสิน มูลหนี้ 70,390.48 บาท ซึ่งผลการไกล่เกลี่ยได้ขอปิดบัญชี 25,600 บาท ทางธนาคารออมสิน ลดดอกเบี้ยทั้งหมด 44,790 บาท รายที่สองเป็นลูกหนี้หลังศาลมีคำพิพากษา กับโตโยต้า มูลหนี้ 151,927 บาท ซึ่งผลการไกล่เกลี่ยได้ขอปิดบัญชี 30,000 บาท ทางโตโยต้าได้ลดหนี้ 121,927 บาท

การจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้ปีนี้เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน” ประกอบกับนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะการแก้ปัญหาหนี้กยศ. หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และหนี้เช่าซื้อรถยนต์ (ลิสซิ่ง) ซึ่งภายในงานได้มีการจัดไกล่เกลี่ยของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ที่เป็นหนี้ก่อนฟ้อง และการไกล่เกลี่ยของกรมบังคับคดี ที่เป็นหนี้ภายหลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว โดยมีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และสถาบันการเงิน จำนวน 15 แห่ง ประกอบด้วย 1. ธนาคารออมสิน 2. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 3. บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) 4. บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด 5. บริษัท โตโยต้า ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด 6. บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 7. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 8. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดเลย 9. การประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดเลย 10. สำนักงานขนส่งจังหวัดเลย 11. บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด 12. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 13. บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด 14. บริษัทประกันสินเชื่อุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ 15. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

สำหรับผลการไกล่เกลี่ยมีผู้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย รวมทั้งสิ้น 780 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 772 ราย ทุนทรัพย์ 342,093,937.08 บาท คิดเป็นร้อยละ 98.97 ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 76,124,392.31 บาท โดยแยกเป็น กรณีก่อนฟ้อง มีผู้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย จำนวน 539 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 539 ราย คิดเป็นร้อยละ 100 ทุนทรัพย์ 157,685,259.92 บาท ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 70,009,632 บาท กรณีหลังศาลมีคำพิพากษา มีผู้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย จำนวน 241 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 233 ราย คิดเป็นร้อยละ 96.68 ทุนทรัพย์ 184,408,677.16 บาท ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 6,114,760.31 บาท นอกจากนี้ภายในงานได้จัดนิทรรศการและบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดีให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*